ได้ครบเรียบร้อยแล้วสำหรับ 4 ทีมสุดท้ายที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ ประจำฤดูกาล 2018-19ซึ่งประกอบไปด้วย อังกฤษ, โปรตุเกส, สวิตเซอร์แลนด์ และ ฮอลแลนด์
โดยเฉพาะทีม “อัศวินสีส้ม” นั้น คว้าตั๋วเข้าสู่รอบตัดเชือกแบบหวุดหวิดทีเดียว หลังบุกไปเจ๊า เยอรมนี 2-2 แบบสุดมันส์ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทั้งที่โดน “อินทรีเหล็ก” ขึ้นนำก่อนสองตุง แต่พวกเขาก็มาได้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีมคนเก่ง ที่ขึ้นมากระทุ้งประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้ทีมของ โรนัลด์ คูมัน แซง ฝรั่งเศส ซิวแชมป์กลุ่มหนึ่ง และทะลุเข้ารอบสี่ทีมสุดท้ายด้วย “เฮด-ทู-เฮด” ที่เหนือกว่า “ตราไก่”
สรุปผลงานในรอบแบ่งกลุ่มของทั้ง 4 ชาติ
ฮอลแลนด์
– แพ้ ฝรั่งเศส 1-2 (เยือน)
– ชนะ เยอรมนี 3-0 (เหย้า)
– ชนะ ฝรั่งเศส 2-0 (เหย้า)
– เสมอ เยอรมนี 2-2 (เยือน)
อันดับตารางคะแนนกลุ่มหนึ่ง
ทีม แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม
1.ฮอลแลนด์* 4 2 1 1 8 4 7
2.ฝรั่งเศส 4 2 1 1 4 4 7
3.เยอรมนี 4 0 2 2 3 7 2
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวิตเซอร์แลนด์ (แชมป์กลุ่มสอง)
– ชนะ ไอซ์แลนด์ 3-0 (เหย้า)
– แพ้ เบลเยียม 1-2 (เยือน)
– ชนะ ไอซ์แลนด์ 2-1 (เยือน)
– ชนะ เบลเยียม 5-2 (เหย้า)
อันดับตารางคะแนนกลุ่มสอง
ทีม แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม
1.สวิตเซอร์แลนด์* 4 3 0 1 14 5 9
2.เบลเยียม 4 3 0. 1 9 6 9
3.ไอซ์แลนด์ 4 0 0 4 1 13 0
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โปรตุเกส (แชมป์กลุ่มสาม)
ผลงานในรอบแบ่งกลุ่มของ โปรตุเกส
– ชนะ อิตาลี 1-0 (เหย้า)
– ชนะ โปแลนด์ 3-2 (เยือน)
– เสมอ อิตาลี 0-0 (เยือน)
– ??? โปแลนด์ ??? (เหย้า)
อันดับตารางคะแนนกลุ่มสาม
ทีม แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม
1.โปรตุเกส* 3 2 1 0 4 2 7
2.อิตาลี 4 1 2 1 2 2 5
3.โปแลนด์ 3 0 1 2 3 5 1
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อังกฤษ (แชมป์กลุ่มสี่)
– แพ้ สเปน 1-2 (เหย้า)
– เสมอ โครเอเชีย 0-0 (เยือน)
– ชนะ สเปน 3-2 (เยือน)
– ชนะ โครเอเชีย 2-1 (เหย้า)
อันดับตารางคะแนนกลุ่มสี่
ทีม แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม
1.อังกฤษ 4 2 1 1 6 5 7
2.สเปน 4 2 0 2 12 7 6
3.โครเอเชีย 4 1 1 2 4 10 4
สำหรับรอบรองชนะเลิศนั้น จะมีการจับสลากประกบคู่ที่โรงแรมเชลเบิร์น กรุงดับลิน ประเทศสาธารณรัฐไอร์แลนด์ วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคมนี้ โดยรอบตัดเชือกจะฟาดแข้งกันที่ประเทศโปรตุเกส ช่วงวันที่ 5 และ 6 มิถุนายน ปีหน้า ส่วนเกมรอบชิงชนะเลิศ และชิงอันดับสาม จะเตะกันในวันที่ 9 มิถุนายน