พรีเมียร์ลีก เกมแรกของวันเสาร์ “เดอะ ฟ๊อกซ์” เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เดอะ พอตเตอร์” สโต๊ค ซิตี้ เกมนี้เจ้าบ้านอยู่ในอันดับที่ 8 ขณะที่ทีมเยือนร่อแร่สุดๆ อยู่ในอันดับที่ 19 ของตาราง
เกมนี้ โคล้ด ปูแอล ส่ง ริยาร์ด มาห์เรซ กลับมาเป็นตัวจริง หลังจากเคลียร์ใจกันเรื่องดาวเตะแอลจีเรียไม่ได้ย้ายไปเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยประสานงานร่วมกับ มาร์ค อัลไบร์ทตัน, เดอมาไรซ์ เกรย์ และเจมี่ วาร์ดี้
ทีมเยือนของ พอล แลมเบิร์ต ผลงานยังไม่ดีนักตั้งแต่มาคุมทีมแทนที่ของมาร์ค ฮิวจส์ เกมนี้จัดทัพเต็มสูบ ได้ เคิร์ท ซูม่า คุมแนวรับ ส่วนแนวรุกส่งทั้งเซอร์ดาร ชากิรี่, เอริค มักซิม ชูโป-โมติง และมาเม่ บิรัม ดิยุฟ ลงเล่นร่วมกัน
นาทีที่ 2 เจ้าบ้านเริ่มเกม บุกเข้าใส่ก่อนทันที จากลูกเตะมุม บอลทะลักมาถึงหน้าเขตโทษ และเป็น แมทธิว เจมส์ ได้ยิงบอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 8 ใบเหลืองแรกของเกมเป็นของทีมเยือน โจ อัลเลน รับไปจากจังหวะเตะตัดจากด้านหลังใส่ เกรย์
นาทีที่ 13 สโต๊ค มีโอกาสบ้าง จากจังหวะเอนดิอาย แตะหนีผู้เล่นเลสเตอร์ ก่อนตัดสินใจยิงไม่ผ่านมือชไมเคิ่ล
นาทีที่ 23 เกมลุยกันหนัก มีการแจกใบเหลืองหลายใบ และดิยุฟ ก็รับไปอีกใบจากจังหวะเตะสกัดใส่มาห์เรซจากด้านหลัง
เกมรุกของเลสเตอร์ กดดดันได้มากกว่า แต่ก็ยังเอาชนะแนวรับที่วันนี้มาดีของสโต๊คได้เลย ไม่ว่าจะจังหวะสวนกลับ หรือการแทงทะลุช่อง ยังไม่มีจังหวะให้ได้ลุ้น
Goal! นาทีที่ 44 สโต๊คได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะความสามารถเฉพาะตัวล้วนๆ ของชากิรี่ เริ่มจาก อัลเลน แย่งบอลมาได้ก่อนผ่านให้ ชากิรี่ เลี้ยงแตะเข้าในก่อนปั่นด้วยขวา บอลพุ่งเรียดเสียบเสาเข้าไป เป็นประตูที่ 7 ของดาวเตะร่างตันทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์ผู้นี้
Xherdan Shaqiri Goal HD – Leicester City 0-1 Stoke City 24.02.2018https://t.co/KATtE7Yzwj
#LEI #STK #PremierLeague #LeicesterCity #XHERDANSHAQIRI #LeiStk— Fififi (@foot_fififi) February 24, 2018
จบครึ่งแรก เลสเตอร์ 0 – 1 สโต๊ค ซิตี้
HT: The Potters lead at the break thanks to Xherdan Shaqiri's individual effort just before half-time (0-1) #SCFC pic.twitter.com/fGzaBAJkfN
— Stoke City FC (@stokecity) February 24, 2018
ครึ่งหลัง เลสเตอร์ เดินหน้าบุกเข้าหาตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง
นาทีที่ 56 ทีมเยือนรับดีๆ สวนเกือบได้จากจังหวะเตะเปิดเกมไม่ดีของชไมเคิ่ล บอลมาตกถึงชากิรี่ ปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งหลุดเสาออกไป ถ้าตรงกรอบเป็นประตูแน่นอน
นาทีที่ 61 เลสเตอร์ ส่ง ฟูสเซสนี่ ดิบาบาเต้ และ เคเลจี้ อิเฮียนาโช่ ลงมาแทนที่ เดอมาไรซ์ เกรย์ และ แดนนี่ ซิมป์สันลงสนาม
นาทีที่ 64 สโต๊ค เปลี่ยนตัวบ้าง ถอด มาเม่ บิรัม ดิยุฟ ออก ส่ง ไทรีส แคมป์เบลล์ ลงสนามมาแทน
Goal! นาทีที่ 70 สโต๊คโดนตีเสมอ จากจังหวะมาห์เรซ แทงทะลุทางขวาให้อัลไบร์ทตัน เปิดเข้ากลางหวังให้ วาร์ดี้ เข้าชาร์จ แต่กลายเป็นว่าบัตแลนด์ พลาดบอลไปโดนแขนตัวเองเข้าประตูไปแทน
Wow what a mistake by Jack Butland. You have to really worry for #Englands goalkeeping situation at the World Cup…
#LeiStk #scfc #Lei pic.twitter.com/scD2eH49F4— Tough Tackler (@thetoughtackler) February 24, 2018
นาทีที่ 79 เลสเตอร์ น่าได้สุดๆ จากจังหวะยิงโค้งนอกเขตโทษของมาห์เรซ บัตแลนด์ พุ่งปัดทิ้งได้อย่างยอดเยี่ยม วาร์ดี้ตามมายิงซ้ำบอลผ่านหน้าประตูออกไป ถึงแมคไกวร์ ได้ยิงอีกครั้ง บอลชนเสาออกไป น่าเป็นประตูสุดๆ
นาทีที่ 86 มาห์เรซ ยังคงพยายามบุกต่อไป มาห์เรซ ลุยมาทางขวา ก่อนตัดสินใจยิงเอง บอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 88 โอกาสทองหลุดลอย!! แนวรับสโต๊ค ซิตี้ สกัดพลาด กลายเป็นมาห์เรซ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับบัตแลนด์ แต่ยิงไปติดเซฟแนวรับที่ลงมาทันบล็อคออกหลัง
นาทีที่ 89 เลสเตอร์ น่าได้อีกรอบ จากจังหวะเปิดของมาห์เรซ บอลมาถึง เจมส์ โหม่งสะบัด บอลชนเสาอีก ยังไม่ได้ประตูนำสำหรับเจ้าบ้าน
Full-time: Leicester City 1️⃣-1️⃣ Stoke City
The Foxes are held to a 1-1 draw at King Power Stadium despite a late flurry of chances.#LeiStk pic.twitter.com/svdKaVzBph
— Leicester City (@LCFC) February 24, 2018
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี้: แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, แดนนี่ ซิมป์สัน (เคเลจี้ อิเฮียนาโช่ 61), เวส มอร์แกน, แฮร์รี่ แมคไกวร์, เบน ชิลเวลล์, วิลฟรีด เอนดิดี้, แมทธิว เจมส์, ริยาร์ด มาห์เรซ, เดอมาไรซ์ เกรย์ (ฟูสเซสนี่ ดิบาบาเต้ 61), มาร์ค อัลไบร์ทตัน, เจมี่ วาร์ดี้
สโต๊ค ซิตี้: แจ็ค บัตแลนด์, คอนสตาตินอส สตาฟิลิดิส, เคิร์ท ซูม่า, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ส์, โมริตซ์ เบาเออร์, โจ อัลเลน, บาดู เอนดิอาย, เจฟฟ์ คาเมร่อน, เอริค มักซิม ชูโป-โมติง (เกล็น จอห์นสัน 84), เซร์ดาน ชากิรี่, มาเม่ บิรัม ดิยุฟ (ไทรีส แคมป์เบลล์ 64)
Football Crazy เว็บไซต์สำหรับคนบ้าบอลเช่นคุณ